แนวทางนำธุรกิจก้าวไปอีกขั้นด้วยกลยุทธ์ Web 3.0

อินเทอร์เน็ตกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนโลกทั้งใบไปแล้วในวันนี้ และพัฒนาการของอินเทอร์เน็ตก็มักเติบโตเคียงคู่ไปกับเทคโนโลยีเว็บไซต์ ซึ่งก็มีพัฒนาการมาเป็นยุค ๆ ในขณะนี้โลกก็กำลังก้าวเข้ามาสู่ยุคของ Web 3.0 อันเป็นแนวคิดของเทคโนโลยีเว็บไซต์ยุคใหม่ที่จะก้าวล้ำไปอีกขั้น และสิ่งนี้จะเป็นปัจจัยที่ช่วยผลักดันให้ภาคธุรกิจอุตสาหกรรมในทุกสาขามีการเติบโตและก้าวไปอีกขั้นด้วยเช่นกัน แต่เราจะนำเทคโนโลยี Web 3.0 มาประยุกต์และปรับใช้ในเชิงกลยุทธ์เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้อย่างไร ลองมาดูแนวทางไปพร้อม ๆ กัน

ปูพื้นฐานความเข้าใจ Web 3.0

ก่อนที่จะก้าวไปสู่การประยุกต์ใช้ Web 3.0 ในเชิงกลยุทธ์ เราทุกคนก็ควรจะต้องมีความเข้าใจพื้นฐานในเทคโนโลยีเว็บไซต์แห่งอนาคตนี้กันเสียก่อน เพื่อให้เข้าใจความแตกต่างจึงขอชี้ให้เห็นว่าพัฒนาการของ Web ในแต่ละเวอร์ชันเป็นอย่างไรกันบ้าง

  • Web 1.0 เป็นเทคโนโลยีเว็บไซต์ที่มาพร้อมอินเทอร์เน็ตยุคแรก เป็นเทคโนโลยีการสื่อสารแบบทางเดียว ผู้ให้บริการจะสามารถสร้างเนื้อหาและทำรายได้เพียงฝ่ายเดียว ส่วนผู้ใช้บริการก็จะทำได้เพียงการบริโภคเนื้อหาจากผู้ให้บริการ ไม่สามารถที่จะสื่อสารโต้ตอบกลับไปยังผู้ให้บริการได้
  • Web 2.0 เป็นเทคโนโลยีการสื่อสารแบบสองทาง ผู้ใช้บริการสามารถที่จะสื่อสารโต้ตอบกลับไปยังผู้ให้บริการ และยังสามารถที่จะสื่อสารกับผู้ใช้บริการคนอื่น ๆ ได้ด้วย สถานะของผู้ใช้บริการจะถูกยกระดับขึ้นนอกจากจะเป็นผู้บริโภคเนื้อหาแล้ว ยังเป็นผู้ผลิตเนื้อหาเองได้ด้วย ยกตัวอย่างให้เข้าใจได้ง่าย ๆ ก็คือเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์อย่าง Facebook และ Twitter เป็นต้น ซึ่งจะเห็นว่าผู้ให้บริการจะมีสถานะเป็นเหมือนตัวกลาง และสามารถที่จะควบคุมขอบเขตเนื้อหาของผู้ใช้บริการได้อยู่
  • Web 3.0 เป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพในการสื่อสารมากขึ้น ซึ่งจะทำให้สถานะและบทบาทของผู้ใช้งานเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง คือเป็นการให้โอกาสผู้ใช้งานมีอิสระในการทำสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น ทั้งผลิตเนื้อหา สร้างรายได้ และควบคุมเนื้อหาของตนเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่จำเป็นต้องมีผู้ให้บริการมาเป็นตัวกลางอีกต่อไป

Web 3.0 มีอะไรซ่อนอยู่เบื้องหลัง

เมื่อพอเห็นภาพกว้าง ๆ ของ Web 3.0 กันแล้ว สิ่งที่ควรจะต้องทราบต่อมาก็คือ กลไกการทำงานที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งก็ได้แก่

  • Machine Learning
  • Artificial Intelligence (AI)
  • Big Data
  • Blockchain
  • Edge Computing

โดย Machine Learning และ AI จะช่วยทำให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การใช้งานอินเทอร์เน็ตในแบบที่ละเอียดเฉพาะเจาะจงเป็นรายบุคคลมากขึ้น ข้อมูลที่ AI จะนำมาวิเคราะห์ก็นำมาจาก Big Data โดยข้อมูลขนาดใหญ่เหล่านี้จะถูกจัดเก็บและส่งต่ออยู่บนเทคโนโลยี Blockchain อันเป็นระบบแบบไร้ตัวกลาง (Decentralized Data Architecture) หลังจากนั้นก็จะทำการประมวลผลข้อมูลบนเทคโนโลยี Edge Computing อันเป็นการประมวลผลแบบใกล้แหล่งข้อมูลที่ทำให้เกิดความรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น สุดท้ายก็จะกลายเป็นประสบการณ์ใหม่ของผู้ใช้งานหรือผู้บริโภคที่อยู่ปลายทาง

การประยุกต์ใช้ Web 3.0 ในเชิงกลยุทธ์

หลังจากพอเข้าใจคอนเซ็ปต์ของ Web 3.0 กันแล้ว ก็มาดูแนวทางในการนำ Web 3.0 มาปรับในเชิงกลยุทธ์เพื่อสร้างความแตกต่างและทำให้ธุรกิจก้าวล้ำไปอีกขั้นกัน

  1. เปลี่ยนจาก App ให้เป็น DApps มีองค์กรธุรกิจจำนวนไม่น้อยที่ให้บริการลูกค้าผ่านแอปพลิเคชัน แต่การพัฒนาแอปพลิเคชันแบบดั้งเดิมจะทำงานอยู่บนคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์เพียงเครื่องเดียว นั่นทำให้เกิดข้อจำกัดหลายประการ ทั้งกับฝ่ายผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ ดังนั้น เราสามารถลดข้อจำกัดเหล่านี้ได้โดยใช้คอนเซ็ปต์ของ Web 3.0 มาเปลี่ยนแปลง App ในปัจจุบันให้เป็น DApps (Decentralized Applications) อันจะทำให้เกิดผลดีทั้งฝ่ายผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ คือ
    • ผู้ให้บริการ ลดภาระการจัดเก็บและประมวลผลบนเซิร์ฟเวอร์ขององค์กร และทำให้ข้อมูลต่าง ๆ มีการจัดเก็บและถ่ายโอนไปมาอย่างโปร่งใส ส่งผลให้ภาพลักษณ์ขององค์กรมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นในสายตาของผู้ใช้บริการหรือผู้บริโภค พร้อมกันนั้นความที่ DApps มีระบบการสื่อสารส่งต่อข้อมูลแบบ Smart Contract จึงช่วยลดขั้นตอนและความซับซ้อนต่าง ๆ ในการทำธุรกิจระหว่างองค์กรกับผู้บริโภคได้
    • ผู้ใช้บริการ ได้รับความสะดวกรวดเร็วในการใช้งานแอปพลิเคชันมากขึ้น พร้อมกันนั้นยังมั่นใจได้มากขึ้นด้วยว่า ทุกความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นบนแอปพลิเคชันนั้น ๆ ข้อมูลทุกอย่างจะถูกจัดเก็บอย่างปลอดภัย ไม่สามารถที่จะถูกควบคุมหรือเปลี่ยนแปลงได้

2.สร้างช่องทางการขายบนโลกเสมือน องค์กรสามารถประยุกต์ Web 3.0 มาใช้สร้างความแตกต่างในการขายได้ โดยนำคอนเซ็ปต์ของ Web 3.0 มาใช้งานกับเทคโนโลยีโลกเสมือนอย่าง AR/VR รวมไปถึงการใช้ร่วมกับ Metaverse สร้างช่องทางการขายใหม่ และให้พนักงานขายขององค์กรนำแนวคิด Web 3.0 มาใช้ร่วมกับเทคโนโลยีโลกเสมือน แล้วออกแบบวิธีการขายออนไลน์ในรูปแบบใหม่ที่มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้จากระยะไกล โดยธุรกิจอุตสาหกรรมที่สามารถนำส่วนนี้ไปปรับเป็นกลยุทธ์สร้างความแตกต่างได้ มีตัวอย่างเช่น

  • กลุ่มธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่สามารถจะทำให้ลูกค้าหรือผู้สนใจสามารถสัมผัสบรรยากาศเสมือนจริงของบ้านหรือห้องคอนโดมิเนียมตัวอย่างก่อนที่โครงการจะเริ่มต้นการก่อสร้างจริงได้ ตรงนี้จะเป็นข้อดีต่อทั้งสองฝ่ายเช่นกัน ผู้ประกอบการก็จะได้ทราบข้อมูลความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าแต่ละราย ทำให้เวลาลงมือก่อสร้างจริงก็จะออกแบบได้ตรงกับความต้องการ ส่วนลูกค้าก็จะได้เห็นสิ่งที่ใกล้เคียงกับความจริงทำให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้
  • กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมบันเทิงและกีฬา การจัดงานอีเว้นท์ การแสดง นิทรรศการ คอนเสิร์ต หรือการจัดการแข่งขันกีฬาต่าง ๆ สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบมาจัดบนโลกเสมือนได้ โดยประยุกต์เอาคอนเซ็ปต์ของ Web 3.0 มาใช้ร่วมกัน อย่างให้ผู้ชมได้มีส่วนร่วมโดยตรงในการออกแบบกิจกรรม หรือสร้างคอนเทนต์ของตนเองแล้วนำมาร่วมแสดงภายในงาน ผู้ชมจะไม่ได้อยู่ในฐานะผู้ชมอีกต่อไป แต่จะได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างกิจกรรมความบันเทิงนั้น ๆ ร่วมกันกับผู้อื่นด้วย เหมือนได้เป็นเจ้าของงานเอง อย่างนี้เป็นต้น

3.นำมาสร้าง Business Model ใหม่ แนวทางนี้ขอยกตัวอย่าง Business Model จาก YouTube ที่เปิดพื้นที่ให้ผู้คนเข้ามาสร้างคอนเทนต์ คือเปลี่ยนผู้ใช้งานให้กลายเป็น Creator และให้ค่าตอบแทนกับเจ้าของช่อง รูปแบบนี้ก็เป็นหนึ่งตัวอย่างของแนวคิด Web 3.0 เช่นกันซึ่งธุรกิจอุตสาหกรรมต่าง ๆ ก็สามารถนำมาเป็นกลยุทธ์สร้างความแตกต่างได้ โดยจะสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นกับ Supply Chain ทั้งระบบ ยกตัวอย่างเช่น ในกลุ่มธุรกิจบริการและดูแลสุขภาพ นำแนวคิด Web 3.0 ที่มีเทคโนโลยี Blockchain เป็นกลไกขับเคลื่อนอยู่เบื้องหลัง มาพัฒนารูปแบบการบริการใหม่ที่ครบวงจรมากขึ้นตั้งแต่

  • การวินิจฉัยโรค ผู้มีปัญหาสุขภาพสามารถปรึกษาปัญหากับแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญผ่านแอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นมาภายใต้แนวคิด Web 3.0 ข้อมูลการวินิจฉัย การให้คำปรึกษาต่าง ๆ ของแพทย์และผู้เชี่ยวชาญจะถูกรวบรวม ประมวลผล และแชร์ออกไปในเครือข่ายของโรงพยาบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้เทคโนโลยี Blockchain ที่มีความปลอดภัยสูง เพื่อให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลาย ๆ ท่าน หรือแพทย์เฉพาะทางได้ร่วมกันวิเคราะห์และวินิจฉัยปัญหาของคนไข้ เพื่อหาวิธีรักษาที่ดีและเหมาะสมที่สุดให้กับคนไข้ เป็นการช่วยลดความแออัดของโรงพยาบาล และช่วยลดภาระการบริหารจัดการจำนวนเตียงผู้ป่วยของโรงพยาบาลได้มากขึ้น
  • การส่งตัวผู้ป่วยเข้ารับการรักษา หากการวินิจฉัยเสร็จสิ้นและต้องมีการส่งตัวผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษา แอปพลิเคชันก็จะทำการนัดหมาย แจ้งเตือนไปทั้งแพทย์และคนไข้ นอกจากนั้นแล้วระบบอาจจะยังเชื่อมโยงไปกับระบบการขนส่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยอย่างรถพยาบาลของโรงพยาบาลเอง หรือรถกู้ชีพของอาสาสมัคร เมื่อถึงวันนัดหมายแล้วก็ให้รถไปรับตัวผู้ป่วยมาพบแพทย์ ซึ่งจะทำให้แพทย์สามารถทำการรักษาโรคได้แต่เนิ่น ๆ
  • ติดตามผล หลังเข้ารับการรักษาแล้ว แพทย์สามารถติดตามผลการรักษาของคนไข้ได้ผ่านแอปพลิเคชัน หรือหากกรณีคนไข้อนุญาตให้ติดอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เป็น IoT Sensor ที่จะคอยตรวจวัดค่าและติดตามผลสุขภาพของคนไข้และส่งข้อมูลเข้าไปยังแอปพลิเคชันแบบเรียลไทม์ ทำให้แพทย์สามารถดูแลสุขภาพผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดวงจรการบริการด้านการดูแลสุขภาพแบบได้ผลและครบวงจรมากยิ่งขึ้น อย่างนี้เป็นต้น

เหล่านี้คือแนวทางการนำเทคโนโลยี Web 3.0 มาปรับใช้ในเชิงกลยุทธ์เพื่อสร้างความได้เปรียบในเชิงการแข่งขันให้กับธุรกิจ แต่อย่างไรก็ดีเทคโนโลยี Web 3.0 จะเกิดขึ้นและเป็นประโยชน์กับองค์กรก็ต้องเริ่มต้นจากการวางรากฐานโครงสร้างสถาปัตยกรรมไอทีขององค์กรให้สอดรับกับเทคโนโลยีดิจิทัลแห่งอนาคตด้วย หากองค์กรของคุณต้องการผู้ช่วยในเรื่องนี้ AIS Business พร้อมที่จะสนับสนุนองค์กรธุรกิจในการให้คำแนะนำ และนำเสนอบริการด้านดิจิทัลที่หลากหลาย ด้วยจุดเด่นในการเป็นผู้ให้บริการ 5G Ecosystem ครบวงจร และ Intelligent Network โครงข่ายที่พร้อมตอบโจทย์ทุกรูปแบบการใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างมีประสิทธิภาพ ครบครันด้วย Digital Infrastructure Platform ที่ครอบคลุมบริการดิจิทัลที่ทันสมัย

Reference

  1. Arti, “Top 10 Web 3.0 Marketing Strategies to Follow in your business”, From: https://www.analyticsinsight.net/top-10-web-3-0-marketing-strategies-to-follow-in-your-business/
  2. HealthViva, “How Web3 in Digital Health will transform into real immersive experiences”, From: https://www.taliun.com/how-web3-in-digital-health-will-transform-into-real-immersive-experiences
  3. Hiveblockchain, “What Industries Will Web 3.0 Transform”, From: https://www.hiveblockchain.com/blockchain-101/what-industries-will-web-30-transform/
  4. Sarah O'Neill, “What is Web 3.0 Marketing” From: https://www.martechalliance.com/stories/what-is-web-3.0-marketing
  5. Truffle Suite, “How the Arrival of Web 3.0 is Transforming Traditional Business Models”, From: https://trufflesuite.com/blog/how-the-arrival-of-web-3-0-is-transforming-traditional-business-models/index.html#revenue-share
  6. Moonlightkz, “Decentralized App (dApp) คืออะไร แตกต่างจาก Centralized App อย่างไร พร้อมข้อดี-ข้อเสีย”, From: https://tips.thaiware.com/1906.html

วันที่เผยแพร่ 23 พฤษภาคม 2565

AIS Business พร้อมเป็นพันธมิตรดิจิทัล ที่มั่นใจได้ เพื่อพัฒนาธุรกิจและสังคมไทย
เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน
"Your Trusted Smart Digital Partner"

ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ที่
Email : [email protected]
Website : https://www.ais.th/business

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อแนะนำโซลูชันที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ 

สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญจาก AIS Business เพื่อให้คำปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล 
สำหรับรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ทันที