myNetwork

เมนูใหม่! ที่ให้คุณรับรู้คุณภาพอินเทอร์เน็ตบนมือถือ
พร้อมทั้งปรับเพิ่มประสิทธิภาพได้ตามความต้องการ

ปรับเข้าสู่ 5G Mode ได้ด้วยตัวคุณเอง
เพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่ดีขึ้น

 boost-mode-icon.pngBOOST Mode

เน้นเน็ตแรง เล่นโซเชียล ดูหนัง คมชัดสูง

สำหรับการใช้งานที่ต้องการความเร็วแรงอีกขั้นของ 5G ในการดาวน์โหลด file,ดูหนัง,ดูไลฟ์,สตรีมมิ่ง,เล่นโซเชียล ด้วยความคมชัดในระดับสูง แม้อยู่ในพื้นที่ที่มีการใช้งานหนาแน่น  

game-mode-icon.pngGAME Mode

เน้นเน็ตเสถียร เล่นเกมบนมือถือ ลื่นไหล ไม่กระตุก

สำหรับการเล่นเกมบนมือถือที่ต้องการความเร็วเน็ต 5G ที่เสถียร ต่อเนื่อง ลื่นไหล ไม่สะดุด แม้อยู่ในพื้นที่ที่มีการใช้งานหนาแน่น

โดยสามารถเล่นเกมสุดฮิตได้เพียบ ถึง 12 เกม ดังนี้

Ragnarok-M-Eternal-Love).png  PUBG-Mobile.png  Pokémon-Unite.png  Mobile-Legends-Bang-Bang.png  Speed-Drifters.png  ROV.png
League-of-Legends-Wild-Rift.png  Free-Fire.png  FIFA-Mobile.png  Call-of-Duty-Mobile.png  Ragnarok-X-Next-Generation.png  Ragnarok-Origin.png

live-mode-icon.pngLIVE Mode

เน้นไลฟ์สด ต่อเนื่อง ไม่สะดุด

สำหรับใช้ถ่ายทอดสด และไลฟ์ขายของออนไลน์ รีวิวสินค้า ให้ภาพคมชัด ต่อเนื่อง ไม่สะดุด ผ่านแอปโซเชียลเน็ตเวิร์ค แม้อยู่ในพื้นที่ที่มีการใช้งานหนาแน่น

facebook.png ig.png tiktok.png Shopee.png Lazada.png
  • สามารถซื้อแพ็กเกจ BOOST Mode, GAME Mode, และ LIVE Mode รวมกันสูงสุด 10 แพ็กเกจต่อวัน
  • การใช้งาน 5G Mode ต้องใช้งานด้วยอุปกรณ์ที่รองรับการใช้งาน 5G และภายใต้โครงข่าย 5G ที่รองรับแพ็กเกจนี้เท่านั้น
  • ในการใช้งาน BOOST Mode จะเห็นความแตกต่างที่ชัดเจนอย่างชัดเจน เมื่อใช้งานในพื้นที่ที่หนาแน่น
  • เกมที่สามารถใช้งานผ่าน GAME Mode ได้มีดังนี้
    Call of Duty Mobile, FIFA Mobile, Free Fire, Mobile Legends Bang Bang, Pokémon Unite, PUBG Mobile, Ragnarok X: Next Generation, Ragnarok M: Eternal Love, ROV, Speed Drifters, League of Legends: Wild Rift, Ragnarok Origin
  • ยังไม่สามารถให้บริการ GAME Mode ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ในขณะนี้
  • LIVE Mode เปิดให้บริการในบางพื้นที่

แพ็กเกจ 5G Mode

1. แพ็กเกจ 5G Mode ได้แก่
    1.1) แพ็กเกจ “BOOST Mode” หมายถึง โหมดเพิ่มความเร็วอินเทอร์เน็ตสำหรับผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ที่รองรับการใช้งานตั้งแต่ 5G ขึ้นไป
    1.2) แพ็กเกจ “GAME Mode” หมายถึง โหมดที่เหมาะสมสำหรับการเล่นเกมที่ได้ระบุไว้ (ดูรายละเอียดเกมที่ https://www.ais.th/consumers/lifestyle/livingnetwork/mynetwork/faq)
    1.3) แพ็กเกจ “LIVE Mode” หมายถึง โหมดที่เหมาะสมสำหรับการไลฟ์สดสำหรับผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ที่รองรับการใช้งานตั้งแต่ 5G ขึ้นไป  

2. แพ็กเกจ 5G Mode สำหรับลูกค้าผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เครือข่าย AIS ทั้งประเภทชำระค่าบริการภายหลัง (Postpaid) และชำระค่าบริการล่วงหน้า (Prepaid) ซึ่งใช้เครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่รองรับการใช้งาน 5G และซื้อแพ็กเกจ 5G Mode ผ่านทาง myNetwork บนแอปพลิเคชัน myAIS เท่านั้น

3. แพ็กเกจ 5G Mode เป็นแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตเสริมสำหรับลูกค้าที่ประสงค์จะเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานอินเทอร์เน็ต โดยแพ็กเกจจะมีผลทันทีเมื่อได้รับ SMS ยืนยันการสมัครเสร็จสมบูรณ์ การใช้ Mode ต่างๆ ของแพ็กเกจ 5G Mode เป็นเพียงคำแนะนำการใช้งานที่เหมาะสมของแต่ละ Mode ที่บริษัทกำหนดไว้เบื้องต้นเท่านั้น ทั้งนี้ ปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ลูกค้าได้รับตาม Mode ที่เลือกซื้อไว้นั้นจะถูกใช้ก่อนแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตอื่นๆที่ลูกค้ามีอยู่ และปริมาณการใช้จะรวมกับการใช้งานเพื่อเข้าถึงบริการหรือ Content อื่นๆ ด้วย

4. การชำระค่าแพ็กเกจ สามารถชำระผ่านแอปพลิเคชัน my AIS ด้วยวิธีการดังนี้ Pay to bill, E-Wallet, Bank Application, Credit/Debit Card และอื่นๆ

5. ลูกค้าสามารถเลือกซื้อแพ็กเกจ BOOST Mode, GAME Mode หรือ LIVE Mode ได้ แต่ไม่สามารถซื้อพร้อมกันเพื่อใช้งานร่วมกันได้

6. กรณีที่ลูกค้าซื้อแพ็กเกจใดไว้ จะไม่สามารถซื้อซ้ำในแพ็กเกจเดิมได้ จนกว่าแพ็กเกจที่ซื้อก่อนหน้านี้หมดอายุ หรือการใช้งานอินเทอร์เน็ตครบตามปริมาณการใช้งานแล้วเท่านั้น

7. ลูกค้าสามารถซื้อแพ็กเกจ BOOST Mode,  GAME Mode หรือ LIVE Mode รวมกันสูงสุด 10 แพ็กเกจต่อวัน โดยจะสิ้นสุดการนับจำนวนครั้งเมื่อเวลา 23:59:59

8. กรณีแพ็กเกจที่ซื้อหมดอายุ หรือการใช้อินเทอร์เน็ตครบตามปริมาณการใช้ แพ็กเกจจะสิ้นสุดการใช้งานทันที

9. กรณีที่ลูกค้าใช้ Mode ใด Mode หนึ่งอยู่ และต้องการเปลี่ยนไปใช้งาน Mode อื่น ลูกค้าต้องซื้อแพ็กเกจ 5G Mode อื่นที่ประสงค์จะใช้เพิ่ม ซึ่ง Mode การใช้งานเดิมจะสิ้นสุดลงทันที หาก Mode การใช้งานเดิมยังมีปริมาณ จำนวน หรือวันเวลาการใช้งานคงเหลือ ลูกค้าจะไม่สามารถขอรับเงินคืนได้

10. แพ็กเกจ 5G Mode สามารถใช้งานได้ภายในประเทศเท่านั้น

คำถามที่พบบ่อย

เมนูที่ให้ลูกค้าเข้าถึงขีดความสามารถของ Living Network ที่ยกระดับการให้บริการอินเทอร์เน็ตบนมือถือ และเน็ตบ้านไปอีกขั้น ที่ช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบคุณภาพของเน็ตมือถือ และ เน็ตบ้าน รวมถึงการปรับความเร็วเน็ตได้ให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ โดยที่คุณสามารถทำรายการต่างๆ ด้วยตัวเองผ่านแอปพลิเคชัน myAIS ตลอด 24 ชั่วโมง

เมนูที่ช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบคุณภาพอินเทอร์เน็ตบนมือถือที่กำลังใช้งานอยู่ได้แบบเรียลไทม์ ณ ตำแหน่งที่ คุณกำลังใช้บริการ และบริเวณใกล้เคียง พร้อมการแจ้งเตือนกรณีที่คุณพบข้อจำกัดในการใช้งานต่างๆ และให้คำแนะนำที่จะช่วยให้คุณใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ดียิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์สูงสุดในการใช้งาน มีความจำเป็นที่ต้องอนุญาตให้ myAIS เข้าถึงพื้นที่การใช้งานของคุณ

สำหรับผู้ที่ใช้อุปกรณ์ที่รองรับ 5G หรือ สูงกว่าเท่านั้นที่จะสามารถใช้ 5G Mode เพื่อปรับความเร็วของอินเทอร์เน็ตให้เหมาะสมกับการใช้งานทั้ง BOOST Mode, GAME Mode, และ LIVE Mode

แผนที่อัจฉริยะที่แสดงคุณภาพการให้บริการสัญญาณอินเทอร์เน็ตบนมือถือ แบบแผนที่ ณ ตำแหน่งที่กำลังใช้งาน และบริการใกล้เคียงแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ แผนที่จะแสดงตำแหน่งของศูนย์ให้บริการของเอไอเอสทั่วประเทศ และมีจุดบริการอุ่นใจให้ชาร์จได้ที่ AIS Serenade และ AIS Shop (ที่ร่วมรายการ) โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งนี้แผนที่นี้สามารถนำทางไปยังศูนย์บริการของ AIS ที่อยู่ใกล้คุณเพื่อความสะดวกในการใช้บริการได้ทันที

เป็นการแสดงผล และคุณภาพของการใช้บริการ Internet บนมือถือโดยประเมินจากตำแหน่งที่ใช้บริการ แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตที่กำลังใช้งาน และจุดให้บริการ ณ เวลานั้นๆ

เป็นช่องทางที่ให้คุณสามารถทำการประเมินความพอใจกับเน็ตมือถือที่คุณกำลังใช้งาน โดยคุณสามารถให้คะแนนได้ 1-5 คะแนน เพื่อแจ้งกลับมาให้บริษัทฯ นำไปเป็นข้อมูลเพื่อพัฒนาบริการได้

เป็นการแสดงผลแบ่งตามพฤติกรรมการใช้งาน โดยประเมินจากตำแหน่งที่ใช้บริการ แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตที่กำลังใช้งาน และจุดให้บริการ ณ เวลานั้นๆ

ซึ่งจะแบ่งกลุ่มดังนี้ 

  • Browsing / Social: การใช้งานผ่าน Internet Browsing เช่น Chrome, Firefox, และอื่นๆ และการใช้งาน Social Network เช่น Facebook, Instagram, Tiktok
  • Game: การเล่นเกมส์ผ่านเน็ตมือถือทั่วไป (การเล่นเกมส์ Real time multiplayer)
  • Live: การ Live ต่างๆ ในช่องทาง Social Network เช่น Facebook, YouTube เป็นต้น
  • Video Streaming: การดู หนัง, Live Streaming ต่างๆ เช่น YouTube, Netflix, Viu, iQIYI เป็นต้น

สำหรับผู้ใช้งานมือถือที่รองรับ 5G หรือสูงกว่าเท่านั้น ที่สามารถใช้งาน 5G Mode โดยซื้อแพ็กเกจเสริมเพื่อใช้งาน 5G Mode โดยการซื้อแพ็กเกจเพื่อใช้งาน 5G Mode ดังนี้

  • BOOST Mode: โหมดที่เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการความเร็วแรงของ 5G หรือเล่นโซเชียล ดูหนัง ด้วยความคมชัดในระดับสูง แม้อยู่ในพื้นที่ที่มีการใช้งานหนาแน่น
  • GAME Mode: โหมดที่เหมาะกับการเล่นเกมบนมือถือที่ต้องการความเร็วเน็ต 5G เสถียร ต่อเนื่อง ลื่นไหล ไม่สะดุด 
  • LIVE Mode: โหมดที่ช่วยให้การไลฟ์ขายของออนไลน์ รีวิว หรือโชว์ความสามารถในด้านต่างๆ ผ่าน Facebook, Instragram, TikTok, Shoee, Lazada ได้อย่างเสถียรต่อเนื่อง ไม่มีสะดุด 

หมายเหตุ:

  • เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดควรใช้งานอยู่กับที่ 
  • โดยคุณสามารถซื้อแพ็กเกจ BOOST Mode, GAME Mode, และ LIVE Mode รวมกันสูงสุด 10 แพ็กเกจต่อวัน 
  • การซื้อแพ็กเกจนี้ต้องทำผ่านแอปพลิเคชัน myAIS เท่านั้น
  •  ยังไม่สามารถให้บริการ GAME Mode ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • LIVE Mode ใช้งานได้บางพื้นที่ (ใช้ได้เมื่อปุ่มกดซื้อแพ็กเป็นสีเขียว)

เฉพาะผู้ใช้งานที่ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบ Android และเปิดรับการแจ้งเตือนกับแอปพลิเคชัน myAIS จะเห็นสัญลักษณ์การใช้งาน 5G Mode โดยตัวอย่างสัญลักษณ์

ตัวอย่าง: เครื่องหมายและการแจ้งเตือน
android-noti-faq.png

เพื่อเป็นการแจ้งว่าผู้ใช้งานได้สมัครใช้งาน 5G Mode นั้นๆ สำเร็จ ซึ่งสัญลักษณ์นี้จะขึ้นที่หน้าจอด้านซ้ายมือบน และมีแถบแจ้งเตือนว่าผู้ใช้งานได้ทำการสมัครโหมดใดการแจ้งเตือนนี้จะหายไปก็ต่อเมื่อผู้ใช้งานทำการลบได้ด้วยตนเองเท่านั้น

หมายเหตุ: การแสดงสัญลักษณ์ และแถบแจ้งเตืนี้ไม่เกี่ยวข้อง หรือสอดคล้องกับจำนวนอินเทอร์เน็ตโควตา และระยะเวลาของแพ็ก 5G Mode ที่ผู้ใช้งานสมัครไว้

  1. สถานะ Active
  2. สมัครแพ็กเกจ 5G Mode (BOOST Mode, GAME Mode, หรือ LIVE Mode) ใน myAIS แอพพลิเคชั่น
  3. ใช้อุปกรณ์รอบรับ 5G และ เปิดฟีเจอร์ 5G ที่มือถือ
  4. อยู่ในโครงข่าย 5G

บริการอุ่นใจให้ชาร์จ เป็นบริการที่ให้คุณสามารถยืมชุด Power Bank ที่ AIS Serenade และ AIS Shop (ที่ร่วมรายการ) ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

โดยมีขั้นตอนในการยืม ดังนี้

  • ทำการลงทะเบียนผ่าน QR code ที่สาขาก่อน (เพื่อระบุตัวตน)
  • ฝากบัตรประชาชน หรือ บัตรประจำตัวอื่นที่มี ชื่อ-นามสกุล และ รูปถ่ายของตัว ไว้ที่ Shop 
  • พนักงานจะให้ชุด Power Bank ไปใช้งาน 
    - ให้คืนชุด Power Bank ก่อน Shop ปิดในวันเดียวกับที่ยืมชุด Power Bank ไป โดยทาง Shop จะมีการติดต่อคุณที่ยังไม่นำชุด Power Bank มาคืนทาง SMS ก่อน Shop จะปิดในวันนั้นๆ ด้วย
    - ให้คืนชุด Power Bank ที่ Shop สาขาที่ทำการยืมไป 
  • การคืนชุด Power Bank พนักงานจะตรวจความเรียบร้อยของชุด Power Bank และนำบัตรที่แลกไว้คืนกับคุณ
    - หากพบว่าชุด Power Bank เกิดความเสียหาย หรือสูญหาย คุณจะต้องชำระค่าบริการเป็นจำนวน 500 บาท และคุณจะได้ชุด Power Bank นั้นไปครอบครอง
    - หากคุณไม่สามารถนำมาคืนในเวลาที่กำหนดได้ ต้องนำมาคืนในวันถัดมา และชำระค่าบริการเป็นจำนวน 300 บาท

บริการอุ่นใจให้ชาร์จ เป็นบริการที่ให้คุณสามารถยืมชุด Power Bank ที่ AIS Serenade และ AIS Shop (ที่ร่วมรายการ) ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ทั้งนี้ คุณสามารถดูตำแหน่งจุดให้บริการอุ่นใจให้ชาร์จ ได้จาก Interactive Map รายชื่อจุดให้บริการอุ่นใจให้ชาร์จ มีดังนี้

  1. เซเรเนดคลับ สาขาเซ็นทรัล บางนา (ชั้น 5) 
  2. เซเรเนดคลับ สาขาเซ็นทรัล อีสต์วิลล์ (ชั้น 2)
  3. เซเรเนดคลับ สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว (ชั้น 3) 
  4. เซเรเนดคลับ สาขาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า (ชั้น 3 โซนเซ็นทรัล)
  5. เซเรเนดคลับ สาขาเซ็นทรัล พระราม 3 (ชั้น 3)
  6. เซเรเนดคลับ สาขาเซ็นทรัล พระราม 9 (ชั้น 4)
  7. เซเรเนดคลับ สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต (ชั้น 2)
  8. เซเรเนดคลับ สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ (ชั้น 5)
  9. เซเรเนดคลับ สาขาดิเอ็มควอเทียร์ (ชั้น 3)
  10.  เซเรเนดคลับ สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์ (ชั้น 3) 
  11. เซเรเนดคลับ สาขาเมกา บางนา (ชั้น 2)
  12. เซเรเนดคลับ สาขาเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน (ชั้น 6) 
  13. เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ (ชั้น 4)
  14. เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต (ชั้น 2)
  15. เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ (ชั้น 4)
  16. เอไอเอสช็อป สาขาสยามพารากอน (ชั้น 4)
  17. เอไอเอสช็อป สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต 1 (ชั้น GF)