เศรษฐกิจ On-Demand อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ และ เทคโนโลยี 5G

              ในยุคที่พฤติกรรมผู้บริโภคเริ่มเคยชินกับความสะดวกสบาย และความรวดเร็วในการได้รับบริการ หรือเข้าถึงทุกสิ่งที่ต้องการได้แค่คลิกเดียว ผ่านช่องทางออนไลน์/โซเชียลมีเดีย ที่มีให้เลือกหลากหลายแพลตฟอร์ม จึงเป็น “แรงส่ง” ที่ทรงพลังให้กับการเติบโตของวิวัฒนาการทางเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า On-Demand Economy ซึ่งเป็นเทรนด์เศรษฐกิจที่เรียกได้ว่า เกิดขึ้นจากความล้ำหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างแท้จริง

              ทั้งนี้ เว็บไซต์ Techsauce(1) ได้ให้คำจำกัดความที่เข้าใจง่ายว่า “เศรษฐกิจแบบ On-Demand Economy มีลักษณะเป็นตลาดดิจิทัลที่เชื่อมโยงผ่านแพลตฟอร์มเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับผู้บริโภคในทันที”

              ขณะที่ เว็บไซต์ Businessinsider(2) เคยคาดการณ์ไว้เมื่อหลายปีก่อนว่า เราจะเห็นการขยายตัวของ On-Demand Economy ในอัตราที่รวดเร็วมาก เพราะมีแรงขับเคลื่อนทั้งจาก พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ความคุ้นเคยกับการเข้าถึงสื่อต่างๆ อีเมล การแชท และการใช้งานออนไลน์ต่างๆ ผ่านสมาร์ทโฟนได้แบบแทบจะในทันที ทำให้ผู้บริโภคเกิดความรู้สึกว่า เป็นสิทธิของตนในการได้รับประสบการณ์ที่มีประสิทธิภาพ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

              การคาดการณ์ต่างๆ เกี่ยวกับเทรนด์ของ On-Demand Economy ได้รับการพิสูจน์ความแม่นยำแล้ว และยิ่งตอกย้ำความสำคัญในบทบาทของ “เทคโนโลยี” ว่าคือ กลไกหลักสำหรับความเฟื่องฟูของยุคเศรษฐกิจแบบ On-Demand โดยเฉพาะในภาคของธุรกิจ Delivery ซึ่งเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เว็บไซต์ Forbes(3) ได้นำเสนอบทความตอกย้ำว่า การเติบโตอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี ได้เข้ามาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและทัศนคติของลูกค้า และสิ่งที่เกิดขึ้นควบคู่กัน ก็คือ  เทคโนโลยี ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ “กระตุ้น” การขยายบริการประเภท On-Demand ต่างๆ ผ่านช่องทางดิจิทัล ด้วยการช่วยให้ผู้บริโภค เข้าถึงสินค้าและบริการได้แบบฉับพลัน โดยเฉพาะในกลุ่มบริการส่งอาหาร อี-คอมเมิร์ซ สินค้า/บริการด้านสุขภาพ ที่มาพร้อมกับความสะดวกสบาย การจัดส่งที่รวดเร็ว หรือแม้กระทั่งสามารถจัดส่งได้ภายในวันเดียว

              โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทั่วโลกเผชิญหน้ากับสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ก็ยิ่งเพิ่มอัตราเร่งการเติบโตของเทรนด์ข้างต้น ผู้บริโภคซื้อสินค้าผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในภาวะที่มีประกาศล็อคดาวน์ หรือจำกัดการเดินทาง การจำกัดเวลาเปิด-ปิดบริการต่างๆ เป็นต้น เศรษฐกิจในรูปแบบ On-Demand จึงติดปีกพุ่งทะยาน และคาดว่าจะไต่สูงถึงหลัก 335,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2025 ด้วยปัจจัยหนุนจากแนวโน้มการเติบโตของบริการดิจิทัล(4)

3 เทคโนโลยีมาแรงตอบโจทย์ลูกค้ายุคเศรษฐกิจ On-Demand

              ที่ผ่านมา ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่สร้างความเปลี่ยนแปลง (Disruptive Technology) เพื่อเป็นเครื่องนำทางธุรกิจให้รับมือกับความท้าทายในยุคเศรษฐกิจ On-Demand ซึ่งองค์กรธุรกิจ ควรใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมเหล่านั้น เพื่อสร้างให้เกิดการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่าย/ต้นทุน และปรับปรุงความสามารถในการสร้างผลกำไร ท่ามกลางจำนวนคำสั่งซื้อทางออนไลน์ที่เพิ่มไม่หยุด และนี่คือ 3 เทรนด์ที่กำลังมาแรงของเทคโนโลยีการจัดส่งสินค้า (Delivery Technology) จะช่วยให้ภาคธุรกิจ ประสบความสำเร็จในยุคของ On-Demand Economy

1.การบริหารจัดการสินค้าคงคลังรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ: เทคโนโลยี 5G

              กล่าวได้ว่า 5G คือตัวเปลี่ยนเกม โดยเฉพาะสำหรับการสื่อสารที่ต้องการความเร็วสูง เพราะด้วยคุณสมบัติเด่นของเทคโนโลยี 5G ที่รองรับการสื่อสารข้อมูลด้วยระดับความเร็วเพิ่มขึ้น 20 เท่า เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีบนเครือข่าย 4G ( LTE) จึงส่งเสริมให้การใช้อุปกรณ์อัจฉริยะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (IoT) แพร่หลายยิ่งขึ้น อีกทั้งศักยภาพการรองรับปริมาณข้อมูลและความเร็วในการสื่อสารข้อมูลที่สูงขึ้นอย่างมาก ยังช่วยสนับสนุนด้านการวิเคราะห์ และการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างอุปกรณ์

              สำหรับโลจิสติกส์ การมาของเทคโนโลยี 5G ที่มีความเร็วระดับ Ultra-Fast ช่วยผู้ให้บริการยกระดับความสามารถในการใช้โซลูชั่นการวิเคราะห์ฐานข้อมูล (Analytics-Based Solutions) เพื่อบริหารจัดการระบบห่วงโซ่การผลิตและระบบสินค้าคงคลังได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มความแม่นยำ และความรวดเร็วในการเข้าถึงลูกค้า ปัจจุบัน องค์กรธุรกิจ B2B ที่ใช้ อี-คอมเมิร์ซ เป็นเครื่องมือในการขาย หันมาใช้ประโยชน์จากโซลูชันวิเคราะห์ฐานข้อมูล และ IoT เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  ด้วยเทคโนโลยี 5G ทำให้ธุรกิจ เพิ่มความทรงพลังในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แทบจะเรียลไทม์ เสริมศักยภาพให้ธุรกิจใช้ข้อมูลในการตัดสินใจได้มากขึ้น และรวดเร็ว

              นอกจากนี้ เทคโนโลยี 5G ยังเร่งความเร็วของการพัฒนายานพาหนะไร้คนขับ (Autonomous Vehicles) ปัจจุบันมีการทดสอบการใช้เทคโนโลยีด้านนี้แล้วในหลายประเทศ ซึ่งช่วยให้มองทะลุถึงอนาคตของภาคอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ โดยยานพาหนะที่มีความสามารถขับเคลื่อนด้วยตัวเองจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาขึ้นเรื่อย ๆ  และเป็นตัวเร่งในการตอบโจทย์บริการขนส่งสินค้าถึงที่อยู่ผู้รับปลายทาง (Last-Mile Delivery)

2. เห็นภาพรวม: วิธีการอัจฉริยะกว่าเดิมในการติดตามสถานะการจัดส่งสินค้า

              การมีระบบที่ช่วยให้ลูกค้ารับทราบ “สถานะ” พัสดุ กลายเป็นสิ่งปกติในระบบนิเวศของอี-คอมเมิร์ซไปแล้ว ดังนั้นเพื่อขยับให้ล้ำหน้ายิ่งขึ้น ปัจจุบันมีเทคโนโลยีเซ็นเซอร์อัจฉริยะ ที่ทำให้ลูกค้าสามารถทราบ “พิกัด” ของสินค้าที่อยู่ระหว่างการจัดส่งได้อย่างแม่นยำ รวมไปถึงสภาพแวดล้อมของจุดที่พัสดุ/สินค้าอยู่ ณ เวลานั้นๆ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในข้อนี้นับเป็น “ตัวเปลี่ยนเกม” สำหรับการจัดส่งสินค้ามูลค่าสูง วัตถุดิบและส่วนผสมที่ใช้ในการแปรรูปอาหาร (Food Ingredients) เคมีภัณฑ์ และตัวอย่างทางชีวภาพ (Bio-Samples) เป็นต้น

              ขณะที่ การติดตามตำแหน่งแบบเรียลไทม์ และความสามารถในการติดต่อสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ในการเชื่อมต่อระหว่างคนขับรถ และลูกค้า ก็ช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น

Beijing, China - August 21, 2021: Chinese food delivery giant and ecommerce platform Meituan is testing their autonomous delivery vehicle in Beijing.

3.ไปถึงเส้นชัยได้ในเวลาที่รวดเร็ว และไร้รอยต่อ: การจัดส่งโดยหุ่นยนต์ Robotic Deliveries

              ความต้องการบริการแบบไร้สัมผัส (Contactless Services) ที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโรค ผลักดันให้โซลูชันด้านการขับเคลื่อนอัตโนมัติเติบโตตามไปด้วย โดยมีประมาณการณ์จากบริษัท McKinsey ว่า ในอนาคตอันใกล้จะมีสัดส่วนการขนส่งสินค้าด้วยยานพาหนะไร้คนขับถึง 78% ของปริมาณขนส่งพัสดุทั่วโลก และปัจจุบันเริ่มเห็นภาพนี้แล้วในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเริ่มทดลองใช้หุ่นยนต์ในการจัดส่งสินค้า ในรูปแบบยานพาหนะไร้คนขับ และหุ่นยนต์จัดส่งสินค้าระบบอัตโนมัติ (Autonomous Delivery Bots)

              ยกตัวอย่างเช่น สิงคโปร์ กำลังทำโครงการทดลองระยะเวลา 1 ปี ในการใช้หุ่นยนต์อัตโนมัติ (Autonomous Robots) ในการจัดส่งสินค้าในบริเวณแถบตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะสิงคโปร์ ก่อนขยายพื้นที่ให้บริการในระดับประเทศ สำหรับบริการจัดส่งสินค้าแบบ On-Demand Delivery ขณะที่ เมื่อปีที่ผ่านมา ประเทศจีน ก็เริ่มมีการใช้ยานพาหนะไร้คนขับจัดส่งสินค้าในหลายเมืองช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด

              เมืองใหญ่หลายแห่งในเอเชีย กำลังมีการเติบโตของการใช้งานเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ (Autonomous Technologies) โดยในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นผู้นำอุตสาหกรรมหุ่นยนต์โลก มีหลายบริษัทตั้งความหวังกับการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีหุ่นยนต์ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างเช่น บรรเทาปัญหารถติด รับมือปัญหาสังคมสูงวัย ควบคู่กับการเพิ่มประสิทธิผลในการทำงาน

              ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยด้านโลจิสติกส์เหล่านี้ จะกลายเป็นเครื่องมือช่วยให้ธุรกิจเติบโต ตอกย้ำความมั่นใจว่า ธุรกิจที่ตัดสินใจลงทุนติดตั้งใช้งานเทคโนโลยีด้านนี้/เหล่านี้ จะสามารถเกาะติดข้อมูลที่ “ใช่” จากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ตลอดอนาคตระยะยาว

Distribution of logistics networks on industrial freight planes for fast delivery or online ordering. The concept of modern life, business, city life and internet of things

5G ขุมพลังขับเคลื่อนโลจิสติกส์ยุค เศรษฐกิจ On-Demand

              หนึ่งในคุณลักษณะโดดเด่นของเศรษฐกิจแบบ On-Demand Economy ที่ต้องสร้างความพึงพอใจให้กับผู้บริโภคในทันทีนั้น ทาง Techsauce(1) ได้อธิบายเพิ่มเติมไว้ว่าสามารถ “ทำได้ด้วยการเชื่อมข้อมูลระหว่างต้นทางและปลายทางด้วย Location Intelligence” เพราะผู้ให้บริการต้องการระบบข่าวกรองตำแหน่งที่แม่นยำเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่พฤติกรรมวันนี้คือ “อยากได้ ต้องได้เดี๋ยวนี้”

              ดังนั้น หนึ่งในอุตสาหกรรมที่แน่ชัดว่าต้องถูก Disruption จากเทรนด์ของเศรษฐกิจแบบ On-Demand ก็คือ โลจิสติกส์ ซึ่งหากต้องการอยู่รอด และเติบโตเกาะติดเทรนด์ใหม่นี้ได้จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจ ให้สามารถสร้างและนำเสนอบริการที่ Automate ยกระดับความมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และแม่นยำยิ่งขึ้น รวมถึงลูกค้าปลายทางสามารถเชื่อมต่อถึงข้อมูลสถานะการจัดส่งได้ตลอดเวลาว่า ตอนนี้สินค้านั้นๆ อยู่ ณ ที่ใดแล้ว โดยเพิ่มช่องทางอำนวยความสะดวกลูกค้าเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้ตามต้องการ เช่น ระบบแจ้งเตือน เอสเอ็มเอสแจ้งสถานะสินค้าจากบริษัทผู้จัดส่ง หรือผ่านแอปพลิเคชัน

              ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมโลจิสติกส์แบบเดิม ๆ ต้องเผชิญโจทย์หนักหลายข้อ ในการสร้างความพึงพอใจและรักษาความภักดีของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น ระยะเวลาในการจัดส่ง ขั้นตอนการจอง (Booking Process) โครงสร้างราคาที่แตกต่างกันของผู้ให้บริการแต่ละราย ดังนั้น การเกิดขึ้นของเศรษฐกิจแบบ On-Demand Economy และความล้ำหน้าของเทคโนโลยี จึงสามารถเป็น “คำตอบ” ที่ “ใช่”  และมีบทบาทสำคัญมากในการช่วยผู้ให้บริการโลจิสติกส์ ตอบสนองความพึงพอใจให้กับลูกค้าปลายทางในยุค “อยากได้ ต้องได้” ในอุตสากรรมโลจิสติกส์ยุคใหม่ ลูกค้าสามารถจองรถ หรือพาหนะในการขนส่งได้ทุกเวลาที่ต้องการส่งสินค้า สามารถติดตามสถานะสินค้าได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่ถูกจัดส่ง จนกระทั่งสินค้าถึงมือผู้รับปลายทาง เป็นต้น

              จากที่กล่าวมาแล้วข้างต้นจะเห็นได้ว่า เทคโนโลยี 5G ก็คือ หัวใจที่จะขับเคลื่อนผลสำเร็จ และประสิทธิภาพของโซลูชันใหม่ๆ สร้างนวัตกรรม และความแตกต่างในตลาด เพื่อ“เพิ่มมูลค่า”สินค้า และบริการ ด้วยความพร้อมของ AIS 5G Ecosystem ที่ครบวงจร และเครือข่าย 5G ที่มีคลื่นมากที่สุด ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ AIS Business จึงพร้อมสนับสนุนให้องค์กรธุรกิจสามารถดึงศักยภาพของ 5G มาใช้ได้อย่างเต็มที่ ช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีในการส่งมอบบริการ ตอบโจทย์ความคาดหวังของภาคธุรกิจ ตลอดจนลูกค้าปลายทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วันที่เผยแพร่ 19 พฤษภาคม 2565

Reference

  1. Techsauce,” Platform Economy โมเดลธุรกิจที่ผู้ประกอบการไทยไม่ควรมองข้าม” Reference: https://techsauce.co/pr-news/platform-economy-location-intelligence-on-demand
  2. Businessinsider,” The 'On-Demand Economy' Is Revolutionizing Consumer Behavior — Here's How” Reference: https://www.businessinsider.com/the-on-demand-economy-2014-7
  3. Forbes, “Technology Is Powering New Modes Of Delivery For An On-Demand Economy” Reference: https://www.forbes.com/sites/fedex-express/2021/11/22/technology-is-powering-new-modes-of-delivery-for-an-on-demand-economy/?sh=20d586596783
  4. PWC, “Sharing or paring? Growth of the sharing economy” Reference: https://www.pwc.com/hu/en/kiadvanyok/assets/pdf/sharing-economy-en.pdf

AIS Business พร้อมเป็นพันธมิตรดิจิทัล ที่มั่นใจได้ เพื่อพัฒนาธุรกิจและสังคมไทย
เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน
"Your Trusted Smart Digital Partner"

ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ที่
Email : [email protected]
Website : https://www.ais.th/business

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อแนะนำโซลูชันที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ 

สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญจาก AIS Business เพื่อให้คำปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล 
สำหรับรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ทันที