เอาชนะคู่แข่งด้วย Value Proposition แนวคิดที่คนทำธุรกิจออนไลน์ต้องรู้

การทำธุรกิจบนโลกออนไลน์มีข้อดีที่ขนาดของตลาดที่ใหญ่มาก และถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ณ เวลานี้ แต่แน่นอนว่าเมื่อเป็นตลาดที่ใหญ่ ลูกค้าเยอะ ผลที่ตามมาก็คือคู่แข่งทางธุรกิจที่เยอะขึ้นตามไปด้วย จากจำนวนธุรกิจที่ขายสินค้าเหมือน ๆ กัน ที่มีจำนวนมาก ก็จะทำให้เกิดสงครามการแข่งขันเพื่อแย่งชิงลูกค้าระหว่างแบรนด์สินค้าต่าง ๆ และในเมื่อขายของที่เหมือนกัน เราก็จำเป็นที่จะต้องงัดเอากลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพมาใช้ ซึ่งนึ่งในนั้นก็คือการเอาชนะคู่แข่งด้วยแนวคิด Value Proposition

ทำความเข้าใจกับแนวคิดตามหลัก Value Proposition

              เมื่อทุกธุรกิจเริ่มปรับตัวเข้ากับรูปแบบการทำตลาดแบบออนไลน์ เราเลยไม่สามารถที่จะส่งมอบคุณค่าของสินค้าหรือบริการให้ลูกค้าสัมผัส ผ่านรูปแบบเดิมที่เป็นออฟไลน์ได้ อาทิ ความหรูหรา คุณภาพ และความคุ้มค่า ซึ่งแนวคิด Value Proposition ของธุรกิจออนไลน์ จึงมาในรูปของการนำเสนอแบรนด์ของธุรกิจผ่านการเพิ่มคุณค่าของแบรนด์ที่จะส่งมอบให้กับลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์แทน

เริ่มต้นจากการทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสินค้าของแบรนด์เรานั้นจะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้จริง และการตัดสินใจซื้อของลูกค้านั้นจะไม่ใช่แค่การได้สินค้า แต่เป็นการได้แบรนด์เข้าไปด้วย ยิ่งธุรกิจใดที่เก่งเรื่องนี้ บางครั้งเหตุผลที่ลูกค้าซื้ออาจไม่ได้มาจากตัวสินค้าเลย แต่จะมาจากแบรนด์ล้วน ๆ เพียงอย่างเดียว

การส่งมอบ Value Proposition ผ่านช่องทางออนไลน์ ทำอย่างไร
              วิธีการสร้าง Value Proposition ให้เกิดขึ้นกับสินค้าและแบรนด์ของธุรกิจในรูปแบบที่เป็นออนไลน์ ที่ง่าย ดี และเห็นผลที่สุด ก็คือ “การทำคอนเทนต์” เพราะคอนเทนต์คือการทำโฆษณาที่ดีที่สุด ที่ธุรกิจสามารถส่งมอบไปให้กับลูกค้าได้ถึงหน้าจอ โดยหลักการทำคอนเทนต์เพื่อส่งมอบ Value Proposition นั้นจะเริ่มต้นจาก

              1. กำหนด Pain Point ของลูกค้า และเขียนขึ้นมาในส่วนแรกของคอนเทนต์ และ Pain Point นี่เองที่เราจะสามารถใช้เป็นหัวข้อหลักเพื่อดึงดูดให้คนมาสนใจสินค้าและธุรกิจได้ ผ่านความต้องการในการตอบ Pain Point ของตัวลูกค้าเอง เช่น การแก้ปัญหาที่ลูกค้ากำลังเจออยู่ หรือการไขข้อข้องใจในเรื่องต่าง ๆ ด้วยความรู้และผลิตภัณฑ์ ซึ่งตรงนี้จะทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจในคอนเทนต์ที่เราเขียนขึ้นได้ง่ายกว่า และ Pain Point ยังเป็นกุญแจสำคัญสู่การตัดสินใจซื้อของลูกค้าด้วย

              2. ส่งมอบ Value Proposition ขั้นตอนนี้คือช่วงที่เราจะใส่คุณสมบัติที่โดดเด่นของสินค้า ซึ่งจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เข้าไป และบอกกับลูกค้าว่าสินค้าแบรนด์ของเรามีดีกว่าแบรนด์อื่นอย่างไรด้วย เช่นว่าสินค้าหรือบริการของเรานั้นมีความแตกต่างและดีอย่างไร มีมาตรฐานหรือการันตีจากที่ใดมารับรองคุณภาพบ้าง ซึ่งจะช่วยให้เกิดความมั่นใจในตัวสินค้าและนำไปสู่การตัดสินใจว่าจะเป็นลูกค้าของเราต่อไป

              3. สร้างภาพจำที่เป็น Persona ของลูกค้าและแบรนด์ มาถึงตรงนี้คือการนำเสนอถึงระดับของลูกค้าและคุณค่าของแบรนด์ว่าอยู่ในระดับไหน จะหรูมากหรูน้อยอย่างไร ตรงนี้บอกไว้ให้ชัดเจน เพราะนั่นคือภาพจำของแบรนด์ธุรกิจของเรา

ด้วยที่ว่าภาพจำของแบรนด์จะเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงทุกอย่างของสินค้าหรือบริการ เป็นภาพที่ทุกคนจะคิดถึงได้ทันทีว่าธุรกิจของเราคืออะไร ทำอะไร ขายอะไร และขายให้ใคร ซึ่งตรงนี้เองถ้าเราสร้างภาพลักษณ์ได้ชัดเจนก็จะทำให้เกิดการจดจำที่จะทำให้ลูกค้ามีความภักดีต่อแบรนด์ได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากกว่าการนำเสนอแค่ความโดดเด่นของตัวสินค้าเพียงอย่างเดียว

ด้วยการส่งมอบ Value Proposition ผ่านคอนเทนต์อย่างถูกวิธี จะช่วยให้แบรนด์ของเราเป็นที่จดจำได้มากขึ้น และลูกค้าทั่วไปจะสามารถแยกความแตกต่างระหว่างแบรนด์ของเรากับแบรนด์อื่นได้ง่ายกว่า และทำให้แบรนด์ของเรามีความโดดเด่น แตกต่าง และเป็นที่จดจำได้มากยิ่งขึ้นด้วย

วันที่เผยแพร่ 26 พฤษภาคม 2565

AIS Business พร้อมเป็นพันธมิตรดิจิทัล ที่มั่นใจได้ เพื่อพัฒนาธุรกิจและสังคมไทย
เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน
"Your Trusted Smart Digital Partner"

ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ที่
Email : [email protected]
Website : https://www.ais.th/business

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อแนะนำโซลูชันที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ 

สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญจาก AIS Business เพื่อให้คำปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล 
สำหรับรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ทันที