ถอดบทเรียนสำคัญปั้นสตาร์ทอัพให้ปัง
แบบฉบับ ‘Masters of Scale’
27 ก.พ. 2566

Scale คืออะไร

Scale หรือ Scale up แปลว่า ปรับหรือเพิ่มขึ้น ในบริบทของธุรกิจ Scale up คือการขยับขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้นโดยการปรับปรุงและพัฒนารูปแบบการทำงานของคนในองค์กร เมื่อการ “Scale Up” เป็นเป้าหมายสำคัญของเหล่าธุรกิจ Startup ที่กว่าจะพัฒนาธุรกิจให้ไปพิชิตด่านนี้ได้นั้น เชื่อว่าหลายคนน่าจะค้นพบแล้วว่าต้องเผชิญกับความท้าทายมากขนาดไหน?

เช่นเดียวกันกับ Reid Hoffman เจ้าพ่อแห่งวงการสตาร์ทอัพ หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Paypal และผันตัวออกมาก่อตั้งบรฺิษัทเองอย่าง Linkedin ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่เรียกได้ว่าผ่านทุกเรื่องยุ่งยากในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตจนคว้าเอาความสำเร็จมาไว้ในครอบครอง

ซึ่งความน่าสนใจคือเขาไม่ได้เก็บบทเรียน หรือเคล็ดลับการทำธุรกิจสตาร์ทอัพเอาไว้เพียงคนเดียว แต่ Reid Hoffman ได้ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของรายการพอดแคสต์ที่ชื่อว่า Masters of Scale (คลิก https://mastersofscale.com) พร้อมต่อยอดออกเป็นมาตีพิมพ์เป็นหนังสือที่ใช้ชื่อเดียวกันอย่าง Masters of Scale บอกเลยว่าเก็บเกี่ยวเอาเบื้องหลังความสำเร็จของหลายบริษัทชั้นนำแห่งซิลิคอนแวลลีย์ มาบอกต่อแบบไม่มีกั๊ก ชาว Startup Thailand พลาดไม่ได้โดยเด็ดขาด!

เพราะเราสามารถเรียนรู้ความผิดพลาด หรือ ต่อยอดความรู้จากความสำเร็จของคนอื่นได้

Masters of Scale จึงกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ชั้นดีของบริษัท Startup เปรียบเสมือนตัวช่วยที่มัดรวมเอาแนวคิด ประสบการณ์ สิ่งที่คนทำธุรกิจสตาร์ทอัพต้องเจอ หรือวิธีการทำงานอย่างไร จึงสามารถพาธุรกิจให้ Scale Up มาไว้ให้หลากหลายบทเรียน พร้อมให้เราเข้าไปเลือกช้อปปิงมาปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองได้เต็มที่ โดยไม่ต้องไปลงทุนลงแรง คลำหาเส้นทางเอาเอง

#สัมภาษณ์มาหมดแล้ว เหล่าผู้นำแนวหน้าของโลก ตั้งแต่ Meta, Spotify, Airbnb ไปจนถึงอดีตประธานาธิบดีของอเมริกา

ถ้าให้เปรียบเทียบความเก๋าในวงธุรกิจสตาร์ทอัพของ Reid Hoffman ก็คงจะสามารถวัดได้จากที่ Masters of Scale คัดสรรผู้เข้าร่วมรายการที่มาให้สัมภาษณ์ถึงประสบการทำธุรกิจแบบระดับท็อปของโลก ไม่ว่าจะเป็น Mark Zuckerberg - Meta (Facebook),Daniel Ek - Spotify,Brian Chesky - Airbnb รวมไปถึงอดีตประธานาธิบดี Barack Obama ก็ได้แวะมาพูดคุยกับ Reid Hoffman ใน Masters of Scale ด้วยแล้วเหมือนกัน

10 บทเรียน Scale Up ธุรกิจให้ แบบฉบับ ‘Masters of Scale’

  • #1 GET TO "NO" as fast as you can.
  • #2 Be prepared to DO things that DON'T SCALE.
  • #3 Look for GREAT IDEAS disguised as baddies.
  • #4 DESIGN YOUR CULTURE to handle scale.
  • #5 GROW FAST but don't burn yourself out.
  • #6 BE A LEARN-IT-ALL, not a know-it-all.
  • #7 NOTE WHAT PEOPLE DO, not what they say.
  • #8 PIVOT AS NEEDED, embrace Plan B with gusto.
  • #9 LEAD PEOPLE by inspiring, not compelling.
  • #10 View your company as a TROJAN HORSE.

โดย AIS The StartUp ได้สรุปรวมทั้ง 10 บทเรียนให้ออกมาเป็น 3 ข้อใหญ่ๆ เพื่อให้สตาร์ทอัพได้เห็นภาพรวมที่ชัดเจน จากเรื่องเล่าตั้งแต่วันเริ่มต้นไปจนถึงวันที่ธุรกิจเติบโต จนประสบความสำเร็จกัน!

Receiving a “no” can help you get some significant insights into your business idea - การปฏิเสธและถูกปฏิเสธ ช่วยให้เรามองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่แท้จริง

การรู้จักปฏิเสธถึงสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์กับธุรกิจเป็นสิ่งที่ดี แต่อีกสิ่งนึงที่จะช่วยให้ธุรกิจของเราเติบโตได้ดียิ่งขึ้น คือ เข้าใจการถูกปฏิเสธ เพราะไม่มีสตาร์ทอัพบริษัทไหนไม่เคยถูกปฏิเสธ แต่ความอดทน ทำความเข้าใจ และเพียรพยายามจะช่วยให้เราได้คิดวิเคราะห์ เก็บเอาคำแนะนำหรือเสียงวิจารณ์มาเปลี่ยนเป็นแรงผลักดัน และอาจค้นพบหัวใจสำคัญที่ช่วยพัฒนาธุรกิจให้แข็งแกร่งได้มากขึ้น

ตัวอย่างของ Airbnb ที่กว่าจะก้าวมาถึงทุกวันนี้ได้ เรียกได้ว่าถูกปฏิเสธจากเหล่านักลงทุนมาหลายต่อหลายครั้ง แต่พวกเขาเปลี่ยนคำปฏิเสธให้เป็นแรงผลักดัน และเชื่อมั่นในไอเดียของตัวเอง จนสามารถ Scale ธุรกิจขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์

Your customers have the most valuable insights into your business - ข้อมูลลูกค้าเป็นทั้งสมองและหัวใจของธุรกิจ

สิ่งที่ธุรกิจ Startup ต้องมองหาเป็นอย่างแรก คือ โซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เพราะการเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง จะช่วยต่อยอดให้เราสามารถสร้างสรรค์สินค้าและบริการที่มีความน่าเชื่อถือ และสามารถซื้อใจลูกค้าได้อย่างแน่นอน

อย่าง Dropbox ที่เริ่มต้นจากการมองเห็นปัญหาอันน่าหงุดหงิดใจ ของลืมการลืมเมมโมรีสติ๊ก หรือ อุปกรณ์บันทึกข้อมูล แล้วไม่สามารถย้ายไฟล์ข้อมูลได้ หลังจากตั้งใจพัฒนาธุรกิจจนสามารถเปิดทดลองให้กลุ่มคนที่เป็น Influencers ใช้งาน และบอกต่อแบบปากต่อปากจนมีผู้ใช้งานเติบโตถึง 200,000 บัญชี ภายในระยะเวลาประมาณ 10 วัน

Successful companies have great leaders and are extremely flexible. - บริษัทที่ประสบความสำเร็จ มีผู้นำที่ยอดเยี่ยมและมีความยืดหยุ่นสูง

เส้นทางของธุรกิจสตาร์ทอัพ เรียกได้ว่าต้องพบทั้งความเสี่ยง ความคดเคี้ยว และไม่หยุดนิ่ง ดังนั้นการที่องค์กรมีผู้นำที่ดี อย่างการรู้ว่าพวกเขาควรเตรียมพร้อมเสมอสำหรับสิ่งที่ไม่คาดฝัน และไม่ยึดติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเกินไป จะช่วยให้ธุรกิจของเราเป็นผู้ที่อยู่รอดในวันที่ต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ

ถ้าธุรกิจสตาร์ทอัพของคุณสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยพัฒนาสังคมและการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้น แต่ยังขาดเพื่อนคู่คิดที่จะช่วยให้คำปรึกษาพร้อมแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจให้เป็น Masters of Scale เพื่อก้าวไปสัมผัสความสำเร็จอย่างแท้จริง

ห้ามพลาด! ส่งผลงานเข้ามาร่วมการคัดเลือก เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ AIS The StartUp คลิกเลย http://www.ais.th/thestartup/connect.html

ที่มา :