Header Background

คุณสมบัติของ Product ที่ทุก Startup ต้องมี

30 พฤศจิกายน 2561

ปัญหาของเหล่า Startup ต้องพบเจอในการขยายธุรกิจ คงหนีไม่พ้นเรื่องเงินลงทุน โดยหนึ่งในแหล่งลงทุน คือ การนำเสนอธุรกิจกับ VC (Venture Capital) หรือ บริษัทจัดตั้งกองทุนที่ระดมเงินจากนักลงทุนเพื่อมาลงทุนในธุรกิจ Startup ที่เป็นเงินมหาศาล เพราะฉะนั้นทาง VC มักจะให้ความสนใจกับ Startup ที่ดำเนินธุรกิจมาได้ระยะเวลาหนึ่ง รวมถึงมีแนวโน้มและศักยภาพที่จะขยายตลาดได้อย่างรวดเร็ว

สำหรับ Startup Thailand หน้าใหม่ ที่ยังไปไม่ถึงจุดนั้น หรือไม่ได้ทำตลาดจริงๆ ก็จะต้องเน้นที่ตัว Product ให้มีความโดดเด่น จน VC มั่นใจว่าเงินที่ลงทุนไปนั้นคุ้มค่า เรามาดูกันดีกว่าว่าจะทำอย่างไรให้ Product ของเรามีคุณสมบัติตามที่ Startup ต้องมี เพื่อพัฒนาให้โดดเด่นขึ้นรวมถึงเทคนิคที่จะพิชิตใจ VC มาฝากกัน

นักลงทุนถือเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้ Startup Thailand หน้าใหม่ สามารถขยายธุรกิจได้

Product

ในที่นี้ต้องมีความโดดเด่น ต้องสามารถแก้ปัญหาเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้อย่างสร้างสรรค์ และมีจุดเด่นที่ Startup คนอื่นๆ ลอกเลียนแบบได้ยาก

Trick!

โดยปกติแล้ว Startup มีเวลาไม่มากนักในการนำเสนอโครงงานต่อ VC หรือที่เรียกกันว่าการ pitch หากคุณยังไม่มี product ที่วางขายในตลาด การทำสินค้าตัวอย่างจะช่วยให้ VC เข้าใจสินค้าหรือบริการได้อย่างรวดเร็วขึ้น

การจะลงมือเริ่มทำธุรกิจ Startup ให้ประสบความสำเร็จ Product คือ สิ่งสำคัญที่จะบอกว่า Startup ของคุณตอบโจทย์กับผู้ใช้หรือเปล่า

Checklist Startup Thailand
Checklist

1.แก้ปัญหาได้จริงไหม

หรือดีกว่าที่เคยมีตลาดหรือไม่ ลองคิดทบทวนดูว่า Product ของเราสามารถแก้ไขปัญหาได้แบบ “ของมันต้องมี” ได้หรือเปล่า หรือถ้าเป็นปัญหาที่มีคนแก้อยู่แล้ว ลองคิดว่าของเราสามารถแก้ได้ดีกว่าหลายเท่าตัวของคนที่ทำอยู่แล้วหรือไม่?

Checklist

2.ถูกที่ถูกเวลา

เมื่อ Startup ต้องพัฒนา Product คุณต้องดูรอบตัวด้วยว่าตลาดมีความพร้อมหรือไม่ Product ของคุณสอดคล้องกับ Technology Adoption ของผู้ใช้ไหม หรือคุณกำลังไปเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคมากเกินไปหรือเปล่า ยกตัวอย่างง่ายๆ ว่าถ้า Instagramเข้ามาในช่วง 20  ปีก่อน ตอนที่อินเทอร์เน็ตยังไม่แข็งแรง ก็อาจจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าวันนี้ก็ได้

Checklist

3.มีทีมงานที่เข้าใจธุรกิจนั้นๆ

แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่

1) Expertise : ความรู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในธุรกิจนั้นๆ หรือเทคโนโลยีนั้นๆ ในเชิงลึก

2) Team : ทีมงานที่มีประสบการณ์และทักษะในการดำเนินธุรกิจแบบ Startup และสามารถผสานระหว่างธุรกิจ เทคโนโลยี ทักษะการออกแบบ และการทำให้ไอเดียเป็นจริงได้เป็นเรื่องสำคัญ

Trick! จำเอาไว้ว่า ... นักลงทุนในช่วงเริ่มต้น เค้าอาจเลือกลงทุนในทีมงาน ของ Startup Thailand ไม่ใช่ไอเดียเสมอไปเพราะทีมงานที่ดีจะช่วยผลักดันให้ธุรกิจนั้นเติบโตไปได้ในที่สุด ”

Checklist

4.จับตลาดใหญ่พอไหม

เพราะ Startup คือ ธุรกิจที่เน้นการเติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการแก้ปัญหาเพื่อตลาดขนาดใหญ่ หมายความว่าสิ่งนั้นมักจะส่งผลกระทบที่ย่อมรุนแรงกว่า และสร้างโอกาสเติบโตได้รวดเร็วกว่านั่นเอง

Checklist

5.Unfair Advantage

นอกเหนือจากความเชี่ยวชาญของ Startup Thailand แล้ว มีอะไรที่ทำให้ธุรกิจของคุณพิเศษกว่าคนอื่น? มี Connection มีพาร์ทเนอร์กับองค์กรใหญ่เพื่อขยายฐานลูกค้า หรือรู้จักกับนักลงทุนที่จะกลายมาเป็น Strategic Investment ไหม? ถ้ายังเราจะทำอย่างไร ควรที่จะรีบหาที่ปรึกษาที่จะส่งเราไปยังจุดนั้นได้ดีหรือเปล่า?

Checklist

6.มีโครงสร้างและองค์ประกอบที่แข็งแกร่ง ลอกเลียนยาก

ทำยังไงให้ไอเดียของเรามีโครงสร้างและองค์ประกอบที่แข็งแกร่ง โอกาสน้อยมากที่จะเกิดการไม่ซ้ำกันเพราะฉะนั้นจะดีกว่าไหมถ้าเรารู้จักหาทีมงาน หรือผู้เชี่ยวชาญมาพัฒนา Product ให้ดีที่สุดและย้อนกลับไปว่าคุณสามารถที่จะต่อสู้กับปัญหาคู่แข่งเหล่านี้ได้หรือไม่ และก้าวไปข้างหน้าได้เร็วพอหรือเปล่า จะสามารถครองตลาดจนคนอื่นตามไม่ทันได้ไหมมากกว่า

หากคุณกำลังเริ่มต้นทำ Startup ลองพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ดูก่อน ว่า อะไรที่คุณยังขาดอะไรที่คุณยังต้องปรับปรุงเพิ่มเติม เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายในแต่ละข้อนั้นๆ  ต้องทำอย่างไร หรือต้องปรับเปลี่ยนและหันมามองหาไอเดียใหม่?

สุดท้ายนี้อย่าลืมว่า VC มุ่งเน้นการลงทุนเพื่อทำกำไรเป็นหลัก ดังนั้นนอกจากจะมี Product ที่ดีแล้ว Startup Thailand ยังต้องแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการดำเนินงานและมีศักยภาพที่พร้อมสำหรับการขยายธุรกิจอย่างก้าวกระโดด

และหากใครที่สนใจต้องการเข้าร่วม Monthly Pitching ในทุกๆ เดือน กับ AIS The StartUp สามารถเตรียมผลงานไว้ได้เลย และมาร่วมส่งผลงานกันในปีหน้า ได้ 24 ชั่วโมง ได้ที่

บทความโดย
AIS The StartUp